เข็นครกขึ้นป.โท-ป.เอกปริญญาตรีสมัยนี้ไม่พอแล้ว ต้องต่อโท ต่อเอก พูดดูง่าย แล้วเรียนจริงจะยากขนาดไหน
เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)จากรายการข้อคิดรอบตัว ออกอากาศทางช่อง DMC
ปริญญาโทกับปริญญาเอก มีความแตกต่างกับปริญญาตรีมากน้อยเพียงใด?
คนส่วนใหญ่จะคุ้นกับการเรียนแบบประถม มัธยม แล้วปริญญาตรี ต่างกับปริญญาโท ปริญญาเอกตรงที่ตั้งแต่เล็กอนุบาล ประถม มัธยม จนถึงปริญญาตรี เราเรียนในสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ เป็นองค์ความรู้มาแล้ว เรียนแบบฝ่ายรับ รับความรู้ที่เหมือนกับสำเร็จรูปมาแล้ว แค่ทำความเข้าใจ แล้วเอามาใช้งานให้ได้ แต่พอเข้าสู่ระดับบัณฑิตวิทยาลัย ไม่ว่าปริญญาโท หรือปริญญาเอก จะเป็นการเรียนแบบเชิงรุก สาระสำคัญของการเรียนระดับปริญญาโทปริญญาเอกคือ การทำวิจัยที่เรียกว่า วิทยานิพนธ์ ทำวิจัยเสร็จแล้วมาเขียนเป็นวิทยานิพนธ์ การเรียนในห้องเรียนเพื่อให้มีความรู้เพิ่มขึ้นพอจะมาทำวิจัยได้เท่านั้น แต่ตัวชี้วัดคนเรียนปริญญาโทปริญญาเอกอยู่ที่คุณภาพของงานวิจัยว่าดีแค่ไหน โดยจะทำวิจัยได้ต่อเมื่อ มีคำถามบางอย่างเกิดขึ้น แล้วไม่มีใครในโลกที่ให้คำตอบเรื่องนี้ เราจะเป็นผู้สร้างความรู้ใหม่ให้โลกไม่ใช่เรียนองค์ความรู้ที่คนอื่นเขาสร้างไว้ แต่จะต้องต่อยอดให้ความรู้ใหม่กับโลก จะต้องมีการฝึกพัฒนาทักษะพัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดดครั้งใหญ่ เหล่านี้คือความแตกต่างระหว่าง ปริญญาโท ปริญญาเอก กับปริญญาตรี
การเรียนต่อปริญญาโท เพื่อต้องการปรับฐานเงินเดือนเป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่?
ต้องถามตัวเองว่าจะเรียนปริญญาโทเพื่ออะไร เช่น ความต้องการระดับพื้นผิว คือต้องการวุฒิ ปริญญาโท หรือปริญญาเอกมาประดับให้ดูดี โดยใช้ความรู้จากการเรียน ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเปลือกค่อนข้างมาก แต่อีกแบบหนึ่งคือ เรียนเพื่อจะเอาแก่น จะเอาความรู้ เน้นที่ความรู้ ใบปริญญาเป็นอันดับรอง ดังนั้นอย่าไปดูแค่เปลือกใบปริญญาให้ดูที่แก่น ถ้าคิดจะเรียนต่อ ต้องถามใจตัวเองว่าจะเรียนเพื่อเปลือก เพื่อเอาใบปริญญามาโชว์ มีความรู้เป็นของแถม หรือจะเรียนเพราะหวังจะได้ความรู้ เพื่อเอามาใช้ในการทำงาน ส่วนใบปริญญาที่ได้เป็นของแถมไปเป็นวัตถุประสงค์รอง ต้องแยกถามตัวเองให้ได้ก่อน
ประสบการณ์สมัยเรียนปริญญาเอกที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังจะเรียนต่อไป
การเรียน ปริญญาโท ปริญญาเอก ต่างจากปริญญาตรี และมหาวิทยาลัยที่ดี จะเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะในการหาข้อมูลในการคิดวิเคราะห์ (Analysis) และสรุปประมวลผล (Synthesis) ปริญญาโท ปริญญาเอก ไม่ได้เน้นที่ความรู้เพราะสามารถอ่านเองได้ เช่นเรื่องพระพุทธศาสนาในญี่ปุ่น ชั่วโมงแรกในห้องเรียนอาจารย์จะเขียนรายชื่อหนังสืออ้างอิง นักศึกษาจะต้องไปหาอ่านเอง แล้วอาจารย์จะสอนในเรื่องที่ท่านสนใจ ซึ่งจะสอนอย่างละเอียด เพื่อให้นักศึกษารู้วิธีการวิเคราะห์พระพุทธศาสนาแต่ละยุค ดังนั้นสิ่งที่อาจารย์ให้คือทักษะ ซึ่งเนื้อหาที่สอนขึ้นอยู่กับอาจารย์ว่าจะสอนเรื่องไหน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทักษะ เมื่ออกจากห้องเรียน นักศึกษาต้องรีบไปห้องสมุดหรือไปซื้อหนังสือมานั่งอ่านเพื่อให้รู้ภาพรวมทั้งหมด อาจารย์จะให้ในสิ่งที่หนังสือไม่มี จะสอนว่าต้องคิดอย่างนั้น วิเคราะห์อย่างนี้ แล้วทักษะนี้เอาไปใช้ได้ตลอดชีวิต ในการมองในการวิเคราะห์ปัญหา
ดังนั้นจะเรียนปริญญาโท ปริญญาเอกให้เก่ง ต้องเรียนแบบแอคทีฟ เป็นผู้สร้างสรรค์องค์ความรู้ ตั้งหลักแล้วจัดสรรเวลาให้ดี โดยเฉพาะหากได้นั่งสมาธิ(Meditation)เวลาเจอเรื่องยากจะแก้ไขได้ สมาธิจะเป็นอาวุธลับ ให้เราประสบความสำเร็จในการวิจัยได้อย่างดีที่สุด
ในระดับชั้นปริญญาตรี เป็นการศึกษาในลักษณะเชิงรับ คือครูบาอาจารย์จะถ่ายทอดความรู้แล้วเรารับความรู้นั้น ส่วนปริญญาโท และปริญญาเอก จะเป็นการศึกษาแบบเชิงรุก จะได้สร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งการเรียนปริญญาโทและปริญญาเอกนั้นเป็นการพัฒนาศักยภาพของตนเอง ได้ฝึกคิดวิเคราะห์ในเชิงวิชาการ และที่สำคัญคือได้สร้างองค์ความรู้ ให้เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติและสังคมนั่นเอง
เข็นครกขึ้นป.โท-ป.เอก
ปริญญาตรีสมัยนี้ไม่พอแล้ว ต้องต่อโท ต่อเอก พูดดูง่าย แล้วเรียนจริงจะยากขนาดไหน https://dmc.tv/a24140
บทความธรรมะ Dhamma Articles > ข้อคิดรอบตัว[ 30 ต.ค. 2561 ] - [ ผู้อ่าน : 18267 ]
บทความอื่นๆ ในหมวด
ทำไมจีวรพระต้องเป็นสีเหลืองขอไม่นับถือพระสงฆ์
ข้อคิดธรรมะของพระสุธรรมญาณวิเทศ (สุธรรม สุธมฺโม) จากหนังสือ "หน้าสุดท้าย"
I can’t respect monks, can I?
กราบไหว้ทำไม งมงาย !
Why do people have to pay homage? Ignorant!
โซเดียม อันตรายใกล้ตัว
บวชให้สุก
พลังหญิง
ตักบาตรใส่บุญ(ตอนที่2)
ตักบาตรใส่บุญ (ตอนที่1)
ปัญหามรดก
ยิ่งใหญ่ในรายละเอียด